"ฟุตบอลสานสัมพันธ์ จุฬา-ธรรมศาสตร์ 2024" บริจาครายได้จากการจัดงานเพื่อสร้างประโยชน์ต่อสังคม


1 มิถุนายน 2567
จำนวนผู้เข้าชม 116
อบจ. อมธ. ส่งต่อพลังยิ่งใหญ่ของมิตรภาพ บันทึกหน้าประวัติศาสตร์ จากงาน "ฟุตบอลสานสัมพันธ์ จุฬา-ธรรมศาสตร์ 2024" พร้อมบริจาครายได้จากการจัดงานเพื่อสร้างประโยชน์ต่อสังคม

กรุงเทพฯ 30 พฤษภาคม 2567: องค์การบริหารนิสิตจุฬาฯ (อบจ.)  และองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) แถลงปิดโครงการงานฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ – ธรรมศาสตร์ CU - TU Unity Football Match 2024 โดยภายในงานมีการสรุปความสำเร็จของงานในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นบัตรเข้าชมงานที่ขายหมดทุกที่นั่ง ผลสรุปยอดจำหน่ายเสื้อเชียร์ รวมทั้งสองมหาวิทยาลัย ภายในระยะเวลาเพียง 3 เดือน รวมไปถึงกระแสตอบรับและการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ที่ถูกพูดถึงอย่างแพร่หลาย และที่สำคัญคือการตอกย้ำถึงเจตนารมณ์ของการจัดกิจกรรมที่ยึดมั่นในแนวคิดการปรับตัวเท่าทันบริบทสังคมโลกปัจจุบัน มุ่งเน้นสานสัมพันธ์เพื่อส่งต่อความยั่งยืนอย่างแท้จริง พร้อมมอบเงินรายได้จำนวน 2,000,000 บาท ให้แก่โรงพยาบาลและมูลนิธิ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับคุณภาพสังคมอย่างยั่งยืน

นางสาวปุณยภา คุณาวิชชา นิสิตชั้นปีที่ 4 ประธานโครงการฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ – ธรรมศาสตร์ 2024 ฝั่งจุฬาฯ กล่าวว่า "งานฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ 2024 ถือเป็นความสำเร็จอีกก้าวของมหาวิทยาลัยและนิสิต นักศึกษาจากทั้ง 2 สถาบัน เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นกระบวนการทำงานที่คิดและทำโดยนิสิต นักศึกษา ยึดมั่นในแนวคิดที่การปรับตัวให้เท่าทันบริบทสังคมโลกปัจจุบันและมุ่งเน้นสานสัมพันธ์เพื่อส่งต่อความยั่งยืนอย่างแท้จริง ในฐานะตัวแทนคณะผู้จัดงานจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วน ขอบคุณสปอนเซอร์ทุกรายที่สนับสนุนการจัดงานครั้งนี้ รวมถึงทุกกระแสตอบรับจากสังคมในทุกแง่มุม พวกเรายินดีน้อมรับทุกคำติชม และพร้อมนำเอาทุกๆความคิดเห็นมาใช้เพื่อปรับปรุง แก้ไข และพัฒนากิจกรรมต่อไปในอนาคต"

นายปิยวิทย์ หวังชูธรรม นิสิตชั้นปีที่ 4 ประธานโครงการฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ – ธรรมศาสตร์ 2024 ฝั่งธรรมศาสตร์ กล่าวเสริมว่า "ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณเพื่อนๆ นิสิตคณะทำงานจากจุฬาฯ รวมถึงทุกหน่วยงานทุกคนจากทีมธรรมศาสตร์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดงานฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ – ธรรมศาสตร์ CU - TU Unity Football Match 2024 และที่สำคัญคือทุกคนที่สนับสนุนพวกเรา ผ่านการซื้อบัตรเข้าร่วมงานซึ่งเต็มหมดทุกที่นั่งเป็นจำนวนราว 16,000 ที่นั่ง รวมถึงเสื้อเชียร์กว่า 54,874 ตัว ที่ถูกจำหน่ายออกไป ทุกคนถือเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างหน้าประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำของพวกเราทั้งสองสถาบัน ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่างานครั้งนี้จะไม่ได้เป็นเพียงงานกิจกรรมของทั้งสองสถาบัน แต่ยังเป็นงานที่ช่วยจุดประกายสังคมให้มองเห็นถึงประเด็นสำคัญทางสังคมและวิธีคิดของพวกเราที่สามารถเชื่อมโยงปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เข้ากับช่วงเวลาและยุคสมัยที่เปลี่ยนไปซึ่งจะถูกส่งต่อไปจากรุ่นสู่รุ่น ดั่งแนวคิดหลักของงานในปีนี้ที่ว่า "Unity to sustainability ร่วมมือกัน สานสัมพันธ์ สู่ความยั่งยืน"

โดยทางคณะผู้จัดงาน ฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ – ธรรมศาสตร์ CU - TU Unity Football Match 2024  ขอสรุปผลการดำเนินงานและความสำเร็จของการจัดงานดังนี้

1.   งานฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬา-ธรรมศาสตร์ 2024 ได้จัดขึ้น ณ สนามศุภชลาศัย และมีการเปิดจำหน่ายบัตรเป็นจำนวนราว 16,000 ที่นั่ง ซึ่งได้มีการจำหน่ายบัตรเข้าชมดังกล่าว "หมดทุกที่นั่ง" 

2.   เสื้อเชียร์ประจำกิจกรรม รวมทั้งสองมหาวิทยาลัย มีผู้สนใจจำนวนมาก ทำให้มียอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 54,874 ตัว ภายในระยะเวลาเพียง 3 เดือน

3.   ภายในงานได้มี Green Mentor คอยดูแลและแนะนำการแยกขยะอย่างทั่วถึงภายรอบบริเวณงาน ขยะจากการแยกประเภทได้ถูกนำไปกำจัดต่ออย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการส่งเผาเป็นเชื้อเพลิงโรงงานปูนกับของจุฬาฯ หรือการ upcycle

4. กระแสตอบรับและการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หลังจากงานฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬา-ธรรมศาสตร์ 2024 จบลง ถูกพูดถึงอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะทางสื่อหลักหรือโซเชียลมีเดีย ทั้งเรื่องของการแปรอักษรด้วยจอ LED การเดินขวนพาเหรด การแข่งขันฟุตบอล และการจัดกิจกรรมโดยคณะผู้จัดงานซึ่งเป็นนักศึกษาปัจจุบัน ที่ได้สร้างแรงกระเพื่อมสู่สังคมอย่างแท้จริง ซึ่งทางคณะผู้จัดงานรู้สึกมีความยินดียิ่งที่จะนำเอาทุก ๆ ความคิดเห็น มาใช้เพื่อปรับปรุง แก้ไข และพัฒนากิจกรรมต่อไปในอนาคต

นอกจากนี้ทางคณะผู้จัดงาน ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการส่งต่อสิ่งดี ๆ ที่จะนำไปสู่การพัฒนาเพื่อความยั่งยืน และมองว่าความยั่งยืนนั้นจะเกิดขึ้นได้ ย่อมเกิดจาก คนและสิ่งแวดล้อมประกอบร่วมกัน จึงเป็นเหตุผลที่พวกเราตั้งใจนำเงินรายได้จากการจัดงานมูลค่ารวมจำนวน 2,000,000 บาท ให้แก่โรงพยาบาล และมูลนิธิ ดังนี้

1.         โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ

2.         โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

3.         มูลนิธิผู้พิทักษ์ป่าและรักษาทะเล

4.         มูลนิธิสิ่งแวดล้อมศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน


Sunisa S.
Writer
HIGHLIGHT